จากบล๊อกก่อนหน้าที่กล่าวถึง Though/Although/Even though
( http://pemsummary.blogspot.com/2014/01/thoughalthougheven-thoughdespitein.html )
เราได้เชื่อมโยงไปถึงความแตกต่างระหว่าง Even though กับ Even if
ใจความโดยสรุปจากลิ้งค์ข้างต้นคือ Even though เป็น Sub - ordinating conjugation
ส่วน Even if เป็น If-clause
จึงสมควรแก่เวลาที่เราจะมากล่าวถึง If-clause
เรามาสรุปให้เข้าใจจำได้แน่นปึ้ก โดยที่ไม่ต้องงุนงงสับสนกับ If-clause กันเลย
แต่เดี๋ยวก่อน,
ก่อนที่เราจะพาคุณสู่จินตนาการการใช้ If-clause ที่โลดแล่นโบยบินในความคิด
คุณเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้รึยังคะ
1- Perfect tense
.Past perfect : S + had + V3
.Present perfect : S + have + V3
.Future perfect : S + will have + V3
*สังเกตนะคะว่า Perfect tense นั้นใช้ง่าย
ไม่ว่าประธานจะเป็นอย่างไรก็ใช้ had, have, will have บอกกาลทั้งหมด
ถ้าเราเจอสามคำนี้ลาก V3 มาอยู่ใกล้ๆ, เอนเอียงใจได้เลยว่าเขากำลังบอกเราว่า..
เจ้าข้าเอ๊ย "Perferct tense มาแล้วว"
เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ลืม ..
แวะไปทบทวนการใช้ Have, Has, Had จากบล๊อกก่อนหน้าสักครู่แล้วกลับมาดูกันใหม่ค่ะ
ไปเลย. --> http://pemsummary.blogspot.com/2014/01/havehashad.html
สังเกตนะคะว่า การใช้ Have,has,hadที่กล่าวถึงไปแล้ว เป็นกริยาแท้ที่มี Object ตามมา
หรือมี V.to do (don't, doesn't,didn't) เข้ามาช่วยบอกกาลของการปฏิเสธ และบอกประเภทประธาน(don't, doesn't)
สำหรับ Have, had ที่เป็นตัวนำขบวน Perfect tense จะตามมาด้วยกริยา(ในช่องที่สามเสมอ)
2- Could/should,... + have + V3 = เหตุการณ์ที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน
have + V3 คือ Present perfect ใช้บอกสิ่งที่ดำเนินมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
เมื่อเราใช้ตัวช่วย Could, Should, ... เข้าไป ความหมายจะเปลี่ยนไปทันที
Could, should, would, ... ใช้กับอะไรที่มีความมั่นใจน้อยลงจาก Can, Shall, will,...
หรืออีกนัยหนึ่งคือ Could, should, would, ... เผื่อใจว่าสิ่งที่พูดจะเกิดขึ้นหรือไม่มากกว่านั่นเอง
เช่น Could I borrow your smartphone?
เป ้นการขอแบบสุภาพ ไม่เป ้นการบังคับ มากกว่า Can I borrow your smartphone?
การใช้ Could/should,... + have + V3 จึง = เหตุการณ์ที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบันนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น